ทัวร์เวียดนาม กวางบิ่ญ - เว้ - ฮอยอัน - ดานัง - บานาฮิลล์
5 วัน 4 คืน บินตรงเชียงใหม่
ระยะเวลา : ออกเดินทางวันที่ 13 – 17 พฤศจิกายน 2560
เชียงใหม่ – กว๋างบิ่ญ– ถ้ำสวรรค์ – เว้ – ล่องเรือแม่น้ำหอม– วัดเทียนมู่ – พระราชวังได๋โหน่ย – ตลาดดองบา – หมู่บ้านหินอ่อน – ฮอยอัน – ดานัง– ภูเขาบานาฮิลล์– หาดกว่างบิ่ญ - เชียงใหม่ **รวมทิปไกด์และพนักงานขับรถแล้ว**
17.25 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Jet star Pacific สู่เมืองกวางบิ่ญ ประเทศเวียดนาม เที่ยวบินที่ BL430
ถ้ำสวรรค์ ถือเป็นมรดกโลก มีธรรมชาติอันงดงามที่เรายังคงประหลาดใจ โดยภายในถ้ำสวรรค์ แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศเวียดนามตั้งอยู่ในป่าไม้ดึกดำบรรพ์และมีกากาศที่ บริสุทธิ์ ถ้ำสวรรค์ นี้เป็นแบบไดนามิกที่ใช้แห้งไม่มีแม่น้ำไหลผ่านใต้ดินถ้ำแห่งนี้คือที่สวยงามและงดงามและพระบุตรของเทียนจึงอาจมีชื่อชั่วคราวสวรรค์
เมืองเว้ เมืองแห่งประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองเวียดนาม เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาของพระราชวัง สุสานของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหวียน ตลอดจนป้อมปราการที่ตั้งสง่างามอยู่ใจกลางเมือง แม้ว่าเมืองเว้จะได้รับความเสียหายจากพิษภัยของสงครามไปบ้าง แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองสมกับเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ซึ่งมีความกว้างพอๆกับลำน้ำเจ้าพระยา เรือสำราญมังกรเสมือนเรือพระที่นั่งในอดีต ล่องเรือแม่น้ำ เฮืยงยางหรือแม่น้ำหอม ที่มาของชื่อแม่น้ำสายนี้เป็นเพราะในยามค่ำคืน แม่น้ำสายนี้จะพัดพาเอา ความหอมของต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมมาตามสายน้ำนั่นเองผ่านสะพานประวัติศาสตร์สมัยสงคราม ชมชีวิตชาวบ้านที่ขุดทรายขายเป็นอาชีพบนแม่น้ำแห่งนี้ ตลอดจนชีวิตชนบทของสองฝั่งแม่น้ำหอม และภายในเรือยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองคอยบรรเลง
วัดพุทธมหายาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม เป็นอาคารทรงเจดีย์แปดเหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นใน ค.ศ.1601 ในสมัยขุนนางเหวียน ฮวาง (Nguyen Hoang) คำว่า เทียนหมุ แปลว่า เทพธิดา ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มาเยือนจึงตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “วัดเทพธิดาราม” นำท่านชม พระราชวังได๋โหน่ย (พระราชวังหลวงของกษัตริย์ราชวงศ์เหวียน) พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2348 ในสมัยยาลอง และเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์เหวียน 13 พระองค์ ในสมัย สงครามเวียดนาม พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกอเมริกาทิ้งระเบิดลง จนทำให้บริเวณส่วนที่เป็นที่ประทับเสียหาย พังทลายลงมา บางส่วนไม่เหลือแม้แต่ซากปรักหักพัง พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองเว้ เป็นมรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าเมืองเว้จะได้รับความเสียหายจากพิษภัยของสงครามไปบ้าง แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองสมกับเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
วัดพุทธมหายาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม เป็นอาคารทรงเจดีย์แปดเหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นใน ค.ศ.1601 ในสมัยขุนนางเหวียน ฮวาง (Nguyen Hoang) คำว่า เทียนหมุ แปลว่า เทพธิดา ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มาเยือนจึงตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “วัดเทพธิดาราม” นำท่านชม พระราชวังได๋โหน่ย (พระราชวังหลวงของกษัตริย์ราชวงศ์เหวียน) พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2348 ในสมัยยาลอง และเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์เหวียน 13 พระองค์ ในสมัย สงครามเวียดนาม พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกอเมริกาทิ้งระเบิดลง จนทำให้บริเวณส่วนที่เป็นที่ประทับเสียหาย พังทลายลงมา บางส่วนไม่เหลือแม้แต่ซากปรักหักพัง พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองเว้ เป็นมรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าเมืองเว้จะได้รับความเสียหายจากพิษภัยของสงครามไปบ้าง แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองสมกับเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ชมชีวิตชาวบ้านที่ขุดทรายขายเป็นอาชีพบนแม่น้ำแห่งนี้ ตลอดจนชีวิตชนบทของสองฝั่งแม่น้ำหอม และภายในเรือยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองคอยบรรเลง

ดองบา เป็นตลาดสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองเว้ (Hue) ที่อยู่ติดกับเมื่อน้ำเหลือง หรือแม่น้ำหอม เป็นแหล่งชุมนุมคนไทยในเมืองเว้ที่ไม่ได้นัด หมายกันมก่อน ในตลาดดองบาจึงได้ยินแต่ภาษาเวียดนาม และภาษาไทย ขณะเดียวกันก็มีภาษาเวียดนามสำเนียงไทยปนอยู่ด้วย
ภูเขาบานาฮิลล์ ที่ได้รับการบันทึก สถิติโลก โดย World Record ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ในประเภท Non Stop เพราะมีความยาวถึง 5,801 เมตร ในอดีตบานาฮิลล์เป็นสถานตากอากาศที่ดีที่สุดในเวียดนามกลาง ถูกค้นพบในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนาม รวมทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่บนยอดเขา บานาฮิลล์ แฟนตาซี ปาร์ค (Ba Na Hills Fantasy Park) สวนสนุกในร่มและกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยสร้างให้เป็นเหมือนเมืองแห่งเทพนิยายที่สวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางสายหมอกบนยอดเขาบานาฮิลล์ มีหลาย ๆโซนให้ร่วมสนุกกัน อย่างเช่น ภาพยนตร์ในระบบ 3D,4D,5D บ้านผีสิง ถ้ำไดโนเสาร์ เกมสนุกๆ เครื่องเล่นต่างๆ รวมทั้งร้านค้าและร้านอาหารครบครัน
ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
รายละเอียดเพิ่มคลิก
👇
👇


Official Line @ http://line.me/ti/p/@standardtour
http://www.standardtour.com/outbound.php?id=408#ad-image-0

Line ID : Standardtour Co.,Ltd