วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เยอรมนี – ออสเตรีย – สาธารณรัฐเช็ก ปลายปี 2017

เยอรมนี – ออสเตรีย –  สาธารณรัฐเช็ก



วันแรก            กรุงเทพมหานคร                                                                                                                 

บินด้วย LH
22.00 น.         คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินลุฟท์ฮันซ่า แถว G 1-6 ประตูทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.50 น.         ออกเดินทางสู่มหานครแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบิน LH773 (ใช้เวลาบินประมาณ 12 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ทั้งนี้สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า บนเครื่องบิน    

บินด้วย OS
21.00 น.        พบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส แถว G (Row G) ประตูทางเข้าที่ 4  อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4  สนามบินสุวรรณภูมิ
23.55 น.       ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส โดยเที่ยวบิน OS 26         (ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง) โดยสายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า

วันที่สอง        มิวนิค                                                                                                                                    

บินด้วย LH
05.45 น.         เดินทางถึงสนามบินแฟรงเฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี               
08.15 น.         ออกเดินทางจากสนามบินแฟรงเฟิร์ต (FRA) สู่สนามบิน มิวนิค (MUC) โดยเที่ยวบิน LH096
(ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง)
09.15 น.         เดินทางถึงสนามบิน มิวนิค นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร          

บินด้วย OS
05.25 น.         เดินทางถึงสนามบินเวียนนา (VIE) ประเทศออสเตรีย
06.30 น.         ออกเดินทางจากสนามบินเวียนนา (VIE) สู่สนามบิน มิวนิค (MUC) โดยเที่ยวบิน OS111                                 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง)
07.35 น.         เดินทางถึงสนามบิน มิวนิค นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร          
นำท่านเดินทางสู่ใจกลาง เมืองมิวนิค (Munich) เมืองทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐ    บาวาเรีย (Bavaria) มิวนิคเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนีและเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป และยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมากที่สุด นับเป็นเมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรค สัมผัสกลิ่นอายขนบธรรมเนียมประเพณีแบบบาวาเรียนแท้ๆ นำท่านเที่ยวชมประตูแห่งชัยชนะ อาคารบ้านเรือน ที่เรียงรายอยู่บนถนนอันสวยงาม ถนนเม็กซิมิลเลี่ยน โอเปร่าเฮ้าซ์ และเขตพระราชวังเก่า นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche) ยอดโบสถ์เป็นทรงหัวหอมคู่ เป็นศิลปะแบบโกธิค ทำจากอิฐแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิคที่เรารู้จักกันดีตามหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ มีความสูงประมาณ 99 เมตร ตัวโบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1468 แต่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1953 นำท่านชม จตุรัสมาเรียนพลัส (Marianplatz Square) ชมศาลาว่าการเมือง ซึ่งทุกเวลา 11.00 . และ 17.00 . ของทุกๆวันจะมีเสียงนาฬิกาตีบอกจังหวะและตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมย่านการค้าโดยรอบจตุรัสมาเรียนพลัส ทั้งร้านค้าพื้นเมืองและตลาดสินค้าการเกษตร นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของยุโรปทั้งหลายตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระในช่วงบ่ายให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกนั่งจิบกาแฟ, ทานไอศครีม, หรือดื่มเบียร์เยอรมันที่ขึ้นชื่อได้ตามร้านค้าบริเวณรอบๆ จัตุรัสแห่งนี้

กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย                 นำท่านเดินทางสู่ Outlet Ingolstadt Village ช้อปปิ้งเอาท์เลตขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้านค้ามากมาย อาทิ VALENTINO, VERSACE, SWAROVSKI, LACOSTE, JIMMY CHOO, GUESS, CALVIN KLEIN, ASICS, BALLY และอื่นๆ อีกมากมาย

***เพื่อให้ท่านช้อปปิ้งอย่างเต็มที่ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย***

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Arcona Living hotel หรือ Mercure Orbis **** หรือเทียบเท่า

 




วันที่สาม        มิวนิค - นอยส์ชวานสไตน์ - อูบาอามาเกา

เช้า                   รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
                         นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ระยะทาง 130 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) แคว้นบาวาเรียซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน ชื่นชมกับทิวทัศน์ริมสองข้างทางที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีของขุนเขา นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่อยู่ถัดลงมาจากปราสาทนอยชวานชไตน์ จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือภาพวาดเรื่องราวอัศวินแห่งหงส์ในนิยายพื้นบ้านอันเลื่องชื่อ จากนั้นนำท่านนั่งรถมินิบัสเพื่อเข้าชม ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) หรือท่านจะเลือกเดินออกกำลังกายเพื่อขึ้นชมปราสาทแห่งนี้ก็ได้ ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์เป็นหนึ่งในปราสาทราชวังที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 18–19 รัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตามจินตนาการของกวีเอกชาวเยอรมัน ริชาร์ด วากเนอร์ ตัวปราสาทมีที่ตั้งอันน่าทึ่งบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือแม่น้ำพอลลัท พร้อมชื่นชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่านจะประทับใจไปกับความงามและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกดังเทพนิยาย ซึ่ง วอลซ์ ดิสนีย์ ได้จำลองแบบไปสร้างปราสาทไว้ในดิสนีย์แลนด์ทุกแห่งในโลก  จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์

กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                  นำท่านเดินทางสู่ เมืองอูบาอามาเกา (Oberammergau) (ระยะทาง 49 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของเยอรมันซึ่งใกล้กับพรมแดนประเทศออสเตรีย มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงาม ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชม นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์คาทอลิชเคอเช่ (Katholische Kirche) ด้านบนมีหอคอยเดี่ยว ยอดหอคอยมีลักษณะคล้ายหัวหอมสีเขียวสวยงามลงตัว จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองอูบาอามาเกา ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเพ้นท์ที่เรียกว่า ลุฟเทิ้ลมาลเลอไร (Luftlmalerei) โดยมีการเพ้นท์ผนังบ้านด้วยลวดลายน่ารักๆ คล้ายมีคนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ไปจนถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนา อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับสีสันลวดลายการเพ้นท์ผนังบ้านในเมืองน่ารักแห่งนี้ตามอัธยาศัย

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Garmisch หรือ Koenigshof **** หรือเทียบเท่า




วันที่สี่             ฟุสเซ่น ซาลส์บวร์ก – เซ็นต์วูฟกัง ฮอลสตรัท

เช้า                   รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg)  (ระยะทาง 231 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองแสนสวยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาลซ่า มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาทุ่งหญ้าเขียวขจี และทะเลสาบมองต์เซ ซึ่งเคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music นอกจากนี้ท่านยังสามารถพบเห็นศิลปะแบบโมเดิร์นในเมืองซาร์ลบวร์ก (Modern Art in Salzburg) โดยตั้งแต่ปี ค.. 2002 มูลนิธิซาร์ลบวร์ก (Salzburg Foundation) ได้มอบหมายให้ศิลปินร่วมสมัยที่มีผลงานโดดเด่นมาร่วมสร้างสรรค์ชิ้นงานสำหรับวางโชว์ในที่สาธารณะกลางแจ้งในจุดต่างๆ ของซาร์ลบวร์ก นำท่านชมและถ่ายรูปกับสวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนอันสวยงามที่ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเดิม ตกแต่งพันธุ์ไม้หลากหลายสีสัน จากนั้นข้ามฝั่งสู่เมืองเก่าที่มีปราสาทโฮเฮนซาลส์บวร์กตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา นำท่านแวะชมบ้านเกิดของศิลปินเอกผู้แต่งเพลงคลาสสิคชื่อก้องโลกชาวออสเตรียนนามว่าโมสาร์ท (Mozart) ผู้ซึ่งสร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย บริเวณใจกลางเมืองซาลส์บวร์กจะมีถนนเล็กๆ ที่คึกคักมากเพราะเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่งเต็มไปด้วย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายหนังสือ ร้านอาหาร และร้านขายของฝากมากมาย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมบรรยากาศและถ่ายรูปเมืองซาลส์บวร์กตามอัธยาศัย  
 
กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน


บ่าย                  นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์วูลฟ์กัง (St. Wolfgang) (ระยะทาง 47 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)  เมืองรีสอร์ทเล็กๆ ในหุบเขาริมทะเลสาบวูลฟ์กัง ชมเมืองเซนต์วูลฟ์กัง เมืองท่องเที่ยวที่สวยงามโรแมนติคที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวูล์ฟกังที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ทะเลสาบสวยใส และทุ่งหญ้าเขียวขจี เป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฮอล์สตรัท (Hallstatt) (ระยะทาง 38 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองแห่งนี้ เมืองฮอล์สตรัทเป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน  มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea  จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆ ตามแนวเขาเหมือนกับสวนลอยฟ้า จนผู้คนที่เคยได้มาเยือนถึงกับขนานนามกันว่าเมืองนี้สวยจนเป็นแบบในโปสการ์ดหรือวอลเปเปอร์ ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg)  (ระยะทาง 71 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.)

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Wyndham Salzburg หรือ Mercure Salzburg หรือ Holiday Inn City **** หรือเทียบเท่า



วันที่ห้า           ซาลส์บวร์ก – ลินซ์ – เชสกี้ คลุมลอฟ

เช้า                   รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
                   นำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ (Linz) (ระยะทาง 132 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ อดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน โดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นับเป็นเมืองที่แฝงความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บารอค และรอคโคโค  นำท่านชม จตุรัสกลางเฮาพท์พลัทซ์ (Haupt Platz Square) ซึ่งล้อมรอบด้วยอาคารรัฐสภาประจำเมืองที่สร้างขึ้นในปี ค..1513 และมหาวิหารเก่าพอสลินเบิร์ค (Postlingberg Church) ในนิกายเยซูอิตที่มีหอคอยคู่สูงเสียดฟ้า

กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน


บ่าย                  นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) หนึ่งในเมืองมรดกโลกแห่งสาธารณรัฐเช็ก เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992  ตัวเมืองตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา มีความโดดเด่นด้วยอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง จึงได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov castle) สร้างเมื่อปี ค.. 1250 เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา จะเป็นรองก็แต่ปราสาทปรากเท่านั้น มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ตรงบริเวณคุ้งน้ำพอดี ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิคบริเวณจตุรัสกลางเมือง ณ จุดชมวิวภายในปราสาท ท่านจะได้เห็นวิวเมืองเชสกี้ คลุมลอฟ ในมุมสูง ซึ่งสวยงามตะการตา

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Bellevue หรือ The Old Inn หรือ  Myln **** หรือเทียบเท่า




วันที่หก          เชสกี้ ครุมลอฟ- คาร์โลวี วารี - ปราก

เช้า                   รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
               นำท่านเดินทางสู่ เมืองคาร์โลวี วารี (ระยะทาง 236 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) อีกเมืองสวยของสาธารณรัฐเช็ก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เมืองคาร์ลบาด เป็นเมืองที่มีการค้นพบน้ำแร่ โดยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ที่ดำรงตำแหน่งเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันตะวันออก

กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                  นำท่านเที่ยวชม เมืองน้ำแร่ ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของแคว้นโบฮีเมีย เป็นเมืองอยู่ในหุบเขาสองฝั่งแม่น้ำเทบลา ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ค้นพบแหล่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ และมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 12 แห่ง น้ำพุที่ร้อนที่สุด อยู่ในศูนย์นิทรรศการที่มีความร้อนถึง 72 องศาเซลเซียส ภายในจัดแสดงสายน้ำแร่ เมืองนี้เป็นที่นิยมในการเข้าคอร์สสปาเพื่อรักษาสุขภาพและยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง อาทิ โบสถ์ของแมรี่เมดิลีน, โบสถ์สไตล์รัสเซียนออร์ธอดอกซ์, วิหารของเซนต์ปีเตอร์, และเซนต์ปอล อาคารก่อสร้างในสถาปัตยกรรม ทูโอดอร์ นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของเหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง BECHEROVKA ซึ่งเพาะบ่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสมุนไพรชั้นดี ชาวเช็กในโบราณกาลมีความเชื่อว่าเป็นเหล้าสมุนไพรดังกล่าวนี้ เป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารชั้นยอดเลยทีเดียว อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปชมเมืองหรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ตัวเมืองปราก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "นครร้อยยอด" (ระยะทาง 127 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเที่ยวชม จัตุรัสเวนเทสลาสสแควร์ (Wenceslas Square) ที่อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติตกแต่งแบบบารอค เป็นที่เก็บรูปภาพโบราณวัตถุมากมาย และบริเวณด้านหน้ายังเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของกษัตริย์เวเทสลาส ผู้เป็นผู้นำและองค์อุปถัมภ์ศาสนาคริสต์นำสู่ภูมิภาคนี้ รูปปั้นนี้ถือว่าเป็นรูปปั้นบรอนซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีน้ำหนักกว่า 17 ตัน นำท่านเดินตัดผ่านสู่ย่านตลาดกลางแจ้งที่มีทั้งถั่วอัลมอลชุบช็อคโกเล็ตหลากรส มีสินค้าของเล่นที่ทำจากไม้สนผลไม้และสินค้าท้องถิ่น อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก NH Prague หรือ Courtyard Marriot Prague หรือ International hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด         ปราก – ปราสาทแห่งกรุงปราก – โบสถ์เซนต์ไวตัส

เช้า                   รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
                         นำท่านเที่ยว ชมกรุงปราก ดินแดนของสาธารณรัฐเช็ก เป็นที่เลื่องลือและมีผู้คนเดินทางไปชมเมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมแบบ โรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส์ บารอค รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่างๆทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน และองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม  นำท่านเข้าชม ปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ ปราสาทอัศวินโบราณที่สร้างขึ้นในแบบศิลปะโกธิคที่สง่างามซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเช็ก นำท่านชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral) ที่เด่นเป็นสง่า เขตโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.. 1344 ในศิลปะแบบโกธิค มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.. 1929 มีหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำท่านเดินสู่ สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชื่อเดิมเรียกว่าสะพานปรากต่อมาในปี 1870 ได้เปลี่ยนชื่อ ตามพระนามของพระเจ้าชาร์ล อยู่ย่านจตุรัสและตัวเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาเทศบาลกรุงปราก บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย

กลางวัน           รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย                  นำท่านเดินทางสู่ แฟชั่นอารีน่าเอาท์เลต (Fashion Arena Outlet) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน แฟชั่นอารีน่าเอาท์เลต (Fashion Arena Outlet) ตามอัธยาศัย จุใจกับสินค้าแบรนด์เนมต่างมากมาย อาทิเช่น ARMANI, DIESEL, GEOX, GUESS, LACOSTE, MANGO, SAMSONITE, ฯลฯ

16.00 น.         นำท่านเดินทางสู่สนามบินปราก มีเวลาให้ท่านดำเนินการเรื่องทำคืนภาษี (TAX Refund)

***หลังเชคอินเรียบร้อยแล้ว อิสระให้ท่านรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย***

บินด้วย LH
19.05 น.         ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ LH1401 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง)
20.15 น.         ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต (FRA) แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อกลับสู่กรุงเทพฯ
21.55 .         ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LH772 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.30 ชั่วโมง)

บินด้วย OS
21.35 น.         ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS712 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง)
22.20 น.         ถึงสนามบินเวียนนา (VIE) แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อกลับสู่กรุงเทพฯ
23.20 .         ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ OS25 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10 ชั่วโมง)

วันที่แปด        กรุงเทพฯ

บินด้วย LH
14.20 น.         เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

บินด้วย OS
15.20 น.         เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

SPRING in KOREA เที่ยวเกาหลีฤดูใบไม้ผลิ 5 วัน 3 คืน

เที่ยวเกาหลี กรุงโซล เกาะนามิ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ช้อปปิ้งย่านเมียงดง 5 วัน 3 คืน เพียง 29,999 บาท บินตรงเชียงใหม่สายการบิน  KOREAN...