นำท่านเดินทางสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางไปเชียงใหม่
จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่พระตำหนักภูพิงค์ พระตำหนักทรงไทย งามสง่า
อยู่ท่ามกลางแมกไม้อันร่มรื่น ประดับประดาด้วยสวนหย่อม ลำธาร สระน้อยๆและโขดหิน
แต่งแต้มด้วยไม้ดอกต่างชนิด ต่างสี หลากกลิ่น
แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของพระราชนิเวศน์แห่งนี้ก็คือกุหลาบหลากหลายพันธุ์ที่เบ่งบานอวดสีสันให้ดอกโตชนิดที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน นำท่านเดินทางไปทานอาหารเย็นที่
คุ้มขันโตก ท่านจะได้รับประทานอาหารเย็นในรูปแบบขันโตกดินเนอร์ซึ่งจะเป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ
พร้อมทั้งรับชมการแสดงฟ้อนรำแบบล้านนาโบราณและประยุกต์ วันต่อไปนำคณะเดินทางสู่ ดอยอินทนนท์
เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวง”
หรือ “ดอยอ่างกา” ดอยหลวง
หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า
ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำแต่ก่อนนี้มีฝูงกา
ไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา ดอยอินทนนท์ จากนั้นชม “พระมหาธาตุนภเมทนีดล
และพระมหาธาตุ นภพลภูมิสิริ” สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย
โดยพระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ
ฐานเป็นรูป12 เหลี่ยมมีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ ยอดปลีขององค์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริก ธาตุ และ
พระพุทธรูปบูชารอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม จากนั้นเที่ยวชมสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ เป็นสถานีวิจัยดอกไม้เมืองหนาวเป็นหลัก พรรณไม้ที่ปลูกมากที่สุดคือเบญจมาศ เพราะมีสีสันสดใสนอกจากนั้นยังมีโครงการวิจัยสตรอว์เบอรรี่ โครงการศึกษา
และรวบรวมพันธุ์เฟินชนิดต่างๆ โครงการวิจัยกาแฟ โครงการวิจัยฝรั่งคั้นน้ำ ไม้ผล
เช่น สาลี่ พลับ กีวี ทิบทิมเมล็ดนิ่ม ฯลฯ ไม้ดอก
ต่อมาเดินทางสู่ จังหวัดเชียงราย ระหว่างทางจะนำท่านแวะชมน้ำพุร้อนแม่ขะจาน เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
น้ำพุร้อนเป็นทางผ่านระหว่างพ่อค้าจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
โดยมีม้าและวัวเป็นพาหนะเป็นเส้นทางเดินไปตามไหล่เขา
และถือเป็นจุดพักแรมค้างคืน เพราะพื้นเป็นลานกว้างทำเลสะดวก
และมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ
นำคณะท่านเดินทางสู่ วัดร่องขุ่น
เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินของจังหวัดเชียงราย
เพื่อมุ่งสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองและประกาศความยิ่งใหญ่ต่อคนทั้งโลกเพื่อถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติในนาม
"White Temple" ระยะเวลาในการสร้างนั้นไม่มีกำหนดจนกว่าจะแล้วเสร็จซึ่งวางแผน ทุกอย่างไว้หมดแล้วทั้งลูกศิษย์ที่สานต่อและทุนทรัพย์
ประชาชนคนไทยต้องหาโอกาสสักครั้งเพื่อมาชมวัดร่องขุ่น นำท่านชม ไร่บุญรอด หรือสิงห์ปาร์ค
เป็นไร่ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุน อ.เมือง
จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงาม
ภายในไร่บุญรอดมีการจัดแต่งสวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามนานาชนิดโดยจัดเป็นรูปแบบฟาร์มทัวร์ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมที่มีทั้งแปลงเกษตรผสมผสานและพื้นที่จัดสวนดอกไม้นานาพรรณให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพนอกจากนี้ยังสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามในบรรยากาศแห่งขุนเขาเมืองเหนือ นำท่านเดินทางสู่ ไนท์บาซาร์เชียงราย ตั้งอยู่บริเวณสถานีขนส่ง
(เก่า) มีสินค้าให้ท่านเลือกซื้อมากมายไม่ว่าจะเป็นสินค้า พื้นบ้าน สินค้าทำมือ สินค้าหัตถกรรมสวยต้องไม่พลาดที่นี่
นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านอาหาร เวทีการแสดง รำไทย และสะล้อ ซอ ซึง
ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้าน เป็นการอนุรักษ์ศิลปะแบบล้านนาเอาไว้ด้วย อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ ไนท์บาซาร์เชียงราย วันสุดท้ายนำคณะเดินทางสู่ดอยตุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นของเชียงราย
อยู่เหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาว อยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย แต่เดิมเป็นเทือกเขาหัวโล้นที่ถูกชาวเขาตัดทำลายเพื่อใช้พื้นที่ทำการเกษตร จากนั้นเดินทางอำเภอ แม่สาย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 61 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย
ติดกับจังหวัดท่าขี้เหล็กของพม่าโดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดนมีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกันทั้งชาวไทยและชาวพม่าเดินทางไปมาหาสู่ค้าขายกันได้โดยเสรี
นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางไปยังตลาดชายแดนแม่สายและท่าขี้เหล็กของพม่าเพื่อซื้อสินค้าพื้นเมืองและสินค้าราคาถูก
เช่น สบู่พม่าสมุนไพร เครื่องทองเหลือง ตะกร้า เป็นต้น
หรือคลิกที่ลิงค์ด้านล่างนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น