วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เดินทางสู่ประเทศ 2 ทวีป ทัวร์ตุรกี

POPULAR TURKEY
ออกเดินทางเดือน ธันวาคม 2560


รวมเดินทางสัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งดินแดน 2 ทวีป เต็มอิ่มกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานของอาณาจักรออตโตมัน ชื่นชมความงามของธรรมชาติในรูปแบบ Bird eye view ณ เมืองคัปปาโดเกีย 

วันแรก  กรุงเทพฯ                                                                                                                             
19.30 น.                คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สายการบิน Mahan Air เคาน์เตอร์ Sประตู 8ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
22.35 น.                เหิรฟ้าสู่ กรุงเตหะราน โดยสายการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5-050(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)


 03.45 น.                เดินทางถึงสนามบินกรุงเตหะรานเพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
06.50 น.                เหิรฟ้าสู่ กรุงอิสตันบูล เมืองหลวงออตโตมันของประเทศตุรกี ดินแดนแห่งนี้ร่ำรวยพรั่งพร้อมไปด้วย ประวัติศาตร์ สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการมากมาย โดยสายการบิน Mahan Airเที่ยวบินที่ W5-112
08.35 น.                เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ อตาเติร์กกรุงอิสตันบูลหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือ ฮิปโปโดรม สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นไม่ไกลนำทุกท่านชม Blue Mosque หรือ Sultan Ahmet Mosqueถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง 
...จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย(Saint Sophia)หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของ โลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของ  พระเจ้าจัสตินเนียนมีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬารต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม
หลังจากนั้นนำทุกท่านชม พระราชวังTopkapi
ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวัง Topkapiสร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคนนำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย

กลางวัน                 บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางสู่นำท่านสู่ กรุงทรอย เพื่อชม ม้าไม้จำลองเมืองทรอย
ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุงทรอยแตกสงครามม้าไม้ เป็นสงครามที่สำคัญตำนานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี กองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอย โดยการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่าม้าไม้เมืองทรอย โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันแล้วก็ทำการเข็นไปไว้หน้ากรุงทรอยเหมือนเป็นของขวัญและสัญลักษณ์ว่าชาวกรีกยอมแพ้สงครามและได้ถอยทัพออกห่างจากเมืองทรอย ชาวทรอยเมื่อเห็นม้าโทรจันก็ต่างยินดีว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพไปแล้วก็ทำการเข็นม้าโทรจันเข้ามาในเมืองแล้วทำการเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่เมื่อชาวทรอยนอนหลับกันหมด ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาจากม้าโทรจันแล้วทำการเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกเข้ามาในเมืองแล้วก็สามารถยึดเมืองทรอยได้ ก่อนที่จะทำการเผาเมืองทรอยทิ้ง
จากนั้นนำท่านสู่เมืองไอยวาริค (Ayvalik) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.

ค่ำ                          บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเข้าสู่ที่พัก AYVALIK HALIC PARK HOTEL ระดับ 5ดาว หรือเทียบเท่า


เช้า                         บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัม Pergamum
ขึ้นชื่อเรื่องเมืองโบราณแห่งอาณาจักรเฮเลนิสติส (Hellenistic) อันยิ่งใหญ่ แหล่งอารยธรรมโลกที่สำคัญ เป็นที่ตั้งของวิหารโบราณอะโครโปลิส (Acropolis) วิหารบูชาเทพเจ้าอัสเคลปิออน (Asklepion) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูป วิหารแดง (Red Basilica-Kizil Avlu)
กลางวัน                  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. (560 กม.)  จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาสึ Kusadasi เป็นท่าเรือธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล หลังจากที่ตกเป็นอาณาจักรออตโตมัน มหาเสนาดีโอคุซ เมห์เหม็ด พาชา ผู้เป็นวิเซียร์แห่งสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 และสุสต่านออสมันที่ 2 ได้สร้างสุเหร่าคาไลชิและโรงอาบน้ำ ตลอดจนกำแพงเมืองที่พักสำหรับกองคาราวาน เพื่อให้คูซาดาสึเป็นเมืองท่าที่เหมาะในการทำการค้าระหว่างยุโรปและแอฟริกาใต้ และคูซาดาสึเพิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อปี ค.ศ. 1980
ค่ำ                        บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก KUSADASI GRAND BELISH HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า                         บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นดีส่งขายให้กับแบรนด์ชั้นนำหลากหลาย ให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆตามอัธยาศัย และนำท่านชมโรงงานคอตตอน นำท่านเข้าชม House of  Virgin Mary บ้านพระแม่มารี  ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ชม วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ สร้างด้วยหินอ่อนเป็นสถาปัตยกรรมกรีกแบบไอโอนิค และมีเสาหินตั้งตระหง่านรอบวิหารมากกว่า 100 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้
...จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส
เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH)ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต

กลางวัน                   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.(189 กม.) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย
ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ท่านจะได้สัมผัสเมืองเฮียราโพลิส(Hierapolis)เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไปบางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น

ค่ำ                           บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารนำท่านเข้าสู่ที่พัก PAMUKKALE LYCUS RIVER HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า


เช้า                       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำทุกท่านสู่ สวนผีเสื้อ Butterfly Garden มีผีเสื้อให้ชมว่า 50 สายพันธุ์ของผีเสื้อ ทำให้เราทราบถึงวงจรชีวิตของผีเสื้อ ณ ที่แห่งนี้จะได้สัมผัสความหลากหลายของพืชดอกไม้หลากสี พร้อมสัตว์ชนิดอื่นๆ นับว่าเป็นสถานที่อีกแห่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมง 30 นาที ระหว่างทางแวะชม Caravansaraiที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
ค่ำ                        บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง”หรือ Belly Danceเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน(บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง) นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ!! BURCU KAYA HOTEL หรือเทียบเท่า(คัปปาโดเกีย)


** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.30 น. เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเจียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง **
(ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ประมาณ 210-250 USD)

เช้า                       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำทุกท่านสู่ นครใต้ดิน (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกันเป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์สำหรับที่เราไปชมวันนี้เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

กลางวัน              บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำทุกท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ เมืองเกอเรเม (Goreme)ซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์  จากนั้นนำท่านชม หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย จากนั้นนำท่านแวะชมโรงงานทอพรมและโรงงานเซรามิคอิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก

ค่ำ                        บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม  นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ!! BURCU KAYA HOTEL หรือเทียบเท่า(คัปปาโดเกีย)


เช้า                         บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่ เมืองอังการ่า เมืองหลวงของประเทศตุรกี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางให้ท่านได้ชมวิวของ ทะเลสาบเกลือ (Salt Lake)จากนั้นนำทุกท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอังการ่า หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angoraเป็นเมืองหลวงของตุรกีในปัจจุบัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๒  รองจากนครอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia  ใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากนครอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการต่าง ๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าๆ ในตุรกี ความสำคัญของกรุงอังการา กรุงอังการามีประชากรจำนวน 4,965,542  คน ทำให้กรุงอังการาเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ ๒ ของตุรกี และอันดับ ๒ ในกลุ่มเมืองหลวงยุโรป ในขณะที่นครอิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมาร์มารานั้น กรุงอังการาก็เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเครือข่ายคมนาคมในภูมิภาคอนาโตเลีย โดยเป็นจุดตัดของการคมนาคมทางบก (รถยนต์และรถไฟ) ที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ ของตุรกีเข้าด้วยกัน และเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรที่ขนส่งมาจากภาคต่างๆ ทั่วตุรกีด้วย 

กลางวัน               บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำทุกท่านเดินทางสู่ สุสานอตาเติร์ก  (ATATURK MAUSOLEUM) เป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของ MUSTAFA  KEMAL ATATURK ซึ่งเป็นผู้นำในสงครามกู้อิสรภาพของตุรกีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี และประธานาธิบดีคนแรกเป็นสุสานของ ISMET INONU ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของตุรกีด้วยอนุสรณ์สถานออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1944 – 1953 ในธนบัตรตุรกีที่พิมพ์ระหว่างปี 1966 – 1987 และ 1999 – 2009 จะเป็นรูป ANITKABIRด้วย สุสานอตาเติร์ก (Anitkabir หรือ Memorial Tomb หรือ Atatürk Mausoleum)

 ค่ำ                           บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ANKARA BERA HOTEL ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า


วันที่แปด           เมืองอังการ่า-เตหะราน-กรุงเทพฯ            
เช้า                       บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระเวลาให้ทุกท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควร นำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน
11.00 น.                เหิรฟ้าสู่ เตหะราน โดยสายการบิน Mahan Airเที่ยวบินที่ W5-119
14.50 น.                เดินทางถึงสนามบินเตหะราน เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง(บริการ lounge เพื่อให้ทุกท่านได้พักผ่อน)
22.10 น.                เหิรฟ้าสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Mahan Airเที่ยวบินที่ W5-051
วันที่เก้า กรุงเทพฯ                                                                                                                                  
07.25 น.                คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ

***รายการท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ***
**ก่อนทำการจองทัวร์ทุกครั้ง กรุณาอ่านโปรแกรมอย่างละเอียดทุกหน้า และทุกบรรทัด เนื่องจากทาง
บริษัทฯจะอิงตามรายละเอียดของโปรแกรมที่ขายเป็นหลัก** 

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง (TRP) มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่านเปิดห้องพัก เป็น 2 (1 Twin + 1Sgl) ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า กรณีที่ลูกค้าพักห้อง 3 ท่านและบางโรงแรมไม่มีห้อง 3 เตียงบริการ ทำให้ต้องเปิดบริการเป็นห้อง 1Twin + 1Sglทางบริษัทขอเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามหน้างาน
...กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้วไม่สามารถขอคืนเงินได้และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ให้ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20ก.ก.ต่อใบ / กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) 
  น้ำหนักต้องไม่เกิน 7 ก.ก.1ใบ 

อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ โดยสายการบิน Mahan Air ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป
  กลับพร้อมคณะ
- คาภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์
- ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง 
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเทียบเท่า
- ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ (บริการน้ำดื่มบนรถ 1 ขวดเล็ก/ท่าน/วัน และ ในร้านอาหาร 1 ขวด
  ใหญ่ต่อ 4 ท่าน)
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
- ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท วงเงิน
  คุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า ”อาหารเป็นพิษเท่านั้น”)
  (หมายเหตุ:ค่าประกันอุบิติเหตุสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 75 ปีทาง
  บริษัทประกันฯจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงครึ่งหนึ่งของสัญญาฯ)
  **ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือก
  ซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าหนังสือหนังสือเดินทาง
- ค่าน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด (20กิโลกรัมต่อท่าน)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ค่าอาหารสั่งพิเศษ, ค่ามินิบาร์ในห้องพัก 
- ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ, ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน กรณีใช้บริการ bell boy ของแต่ละ
  โรงแรมเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวควรทิปแก่มัคคุเทศก์ท้องถิ่นและคนขับรถที่
  คอยบริการเราโดยประมาณ 62 USD หรือประมาณ 2,170 บาท ต่อทริป
- ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 7วัน เท่ากับ 21 USD)
  พนักงานขับรถในท้องถิ่นท่านละ 2 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 7วัน เท่ากับ 14 USD)
- ค่าทิปมัคคุเทศก์ไทย ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 9วัน เท่ากับ 27USD) แต่ทั้งนี้มัคคุเทศก์ไทย
  ขึ้นอยู่กับความประทับใจของลูกค้า

รายละเอียดเพิ่มคลิก 👇👇
http://www.standardtour.com/outbound.php?id=426#ad-image-0
☎️ 053-820660/053818600
Line ID : @standardtour (อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะคะ)
Facebook : https://www.facebook.com/Standardtourthailand/
Website : www.standardtour.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

SPRING in KOREA เที่ยวเกาหลีฤดูใบไม้ผลิ 5 วัน 3 คืน

เที่ยวเกาหลี กรุงโซล เกาะนามิ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ช้อปปิ้งย่านเมียงดง 5 วัน 3 คืน เพียง 29,999 บาท บินตรงเชียงใหม่สายการบิน  KOREAN...