ย่างกุ้ง หงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน
4 วัน 3 คืน บินตรงเชียงใหม่
พระธาตุอินทร์แขวน
ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้โท อำเภอสะเทิม
เขตรัฐมอญของประเทศพม่า อยู่บนยอดเขา เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต
มีลักษณะเด่นเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่
เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมา นับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ
และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ (สุนัข)
ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักการะครั้งหนึ่งในชีวิต
นำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่ วัดไจ้คะวาย
สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาเพลจะมีพระสงฆ์
สามเณรเดินแถวกันเข้าสู่ห้องฉันเพล ระหว่างนั้นท่านสามารถนำสมุด ปากกา
ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ ณ วัดนี้นอกจากจะได้ตักบาตรแล้ว
ทุกท่านสามารถถวายปัจจัย หรือ ถวายเข้าสาร
ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่
มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ
ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบมอญ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม
(ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้),
พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก)และพระมหากัสสปะ
(ทิศตะวันตก)สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง
และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ
ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายและได้มีการบูรณะใหม่ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงามแตกต่างไปจากองค์อื่นๆ
พระเจดีย์ชเวมอดอว์
เจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์แห่งหงสาวดีและนับเป็น 1 ใน 5
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า คนไทยนิยมเรียกว่า “พระธาตุมุเตา”
ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
ซึ่งครั้งก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนออกศึกของบูรพกษัตริย์
ในสมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่า รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองด้วย
และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยา ทรงประทับอยู่ในหงสาวดี
ก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้
ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง
ทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมา แต่ด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้
จึงได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอว์ขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง
374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง 70 ฟุต)
นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า
ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน
นำท่านสักการะ
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า มีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร
สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน พ.ศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ
มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาทต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน
ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม
พระราชวังบุเรงนอง
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ปี พ.ศ. 2142
ในสมัยพระเจ้านันทบุเรง
ซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกัน
มีการค้นพบเสาและกำแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ในดิน
รัฐบาลพม่าจึงได้ทำการขุดค้นและสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่
โดยถอดแบบจากของเดิม
ซึ่งพระตำหนักที่ประทับบรรทมสีทองเหลืองอร่ามที่ดูโดดเด่นชวนมองในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่า
และท้องพระโรงที่ใช้ออกว่าการก็ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าสีทองเหลืองอร่ามทั้งภายนอกและภายใน
สักการะ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า
เป็นเจดีย์ทองคำที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับด้วยเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด
มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม
โดยช่างชาวพม่าจะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบว่ากันว่าทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก
รอบๆฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน
ยอดฉัตรองค์ พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย
ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย และยังเป็น 1ใน
5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า
และชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ
ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์
ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ
ที่เรียกว่า พยาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์
ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา
วัดงาทัตจี
มีพระพุธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่องาทัตจี แปลว่า
หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์
เครื่องทรงเป็นโลหะ
ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ
จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)
ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่าที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง
อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท
และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ
พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทยนำทุกท่านเข้าสู่ วัดบารมี
ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง
ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้เมื่อนำมาวางบนจานแก้ว จะสามารถเคลื่อนไหวได้อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา
พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่าง ๆ
วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี
นั้นนับว่าเป็นอีกวัดที่มีความสำคัญอย่างมากของเมืองย่างกุ้ง โดยในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสาย
เพระถือเป็นสิ่งมงคลยิ่งสำหรับชาวพุทธที่ในชีวิตจะมีโอกาสซักครั้งที่จะได้มานมัสการพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์
การก่อสร้าง วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี นั้นมิได้เพื่อบรรจุพระเขี้ยวแก้ว
เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ต้องการให้เป็นอีกวัดคู่เมืองย่างกุ้งอีกด้วย
เราจึงจะให้ความงดงามอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรมเเบบพุกามโบราณอยู่ตลอดทั้งวัด
ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมนั้นสามารถเห็นสถาปัตยกรรมเเบบพุกามได้โดยที่ยังไม่ต้องเดินทางไปถึงเมืองพุกามเลย
ซึ่งเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วไว้นั้นจะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก
ด้วยโครงสร้างทรงปราสาทเเบบเเปดเหลี่ยมก็ทำให้มันโดดเด่นสะดุดตาด้วยยอดด้านบนที่เป็นท่องคำเเท้อร่ามตาเป้นอย่างมาก
เเละคุณต้องไม่พลาดในการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
เพราะในเมืองย่างกุ้งเเล้วจะมีเพียงที่วัดนี้เท่านั้นที่มีสถาปัตยกรรมเเบบพุกามตั้งอยู่
ในส่วนของภายในเจดีย์ภายใน วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี
นั้นก็เรียกว่ามีความงดงามไม่เเพ้กัน
โดยคุณจะเห็นตรงกลางบุษบกที่เอาไว้สำหรับประดิษฐานพระเขี้ยวเเก้วนั้นมีสีทองเหลืองอร่ามสวยงามสง่าเป็นอย่างมาก
ซึ่งพระเขี้ยวเเก้วองค์นี้ทางรัฐบาลพม่าได้รับมาจากประเทศจีน
เเม้ว่าจะมีขนาดเล็กเเต่ทางวัดก็ทำการติดตั้งกล้องวีดีโอถ่ายให้คุณสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
Line ID : @standardtour
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น