วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ภูฏาน เจาะลึก ดินแดนมังกรสายฟ้า 5 วัน 4 คืน

ภูฏาน เจาะลึก ดินแดนมังกรสายฟ้า

5 วัน 4 คืน

***********************************************

เยือนดินแดนแหล่งอารยธรรม แห่งขุนเขาหิมาลัย

ประเทศภูฏาน เป็นประเทศเล็กๆที่เป็นดินแดนรวมแหล่งอารยะธรรมต่างๆในอ้อมกอดแห่งขุนเขาหิมาลัย เป็นประเทศที่พุทธศาสนาแบ่งบานอยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย ประชาชนชาวภูฏานมีธรรมมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ประชาชนดำรงชีวิตกันอยู่อย่างเรียบง่ายไม่วุ่นวาย และความสุขของคนภูฏานวัดกันได้ที่ใจ ความสุขอยู่ที่จิตใจที่มีแต่รอยยิ้ม และความเป็นมิตรแก่ผู้คนทั้งโลก

สัมผัสบ้านเมืองที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพราะ

ที่นี่ทุกท่านจะได้สัมผัสบ้านเมืองที่ เมืองพาโรซึ่งเป็นเมืองที่ถูกโอบอยู่ในวงล้อมของขุนเขา บนระดับความสูง 2,280 เมตร มีแม่น้ำปาชูไหลผ่าน อาคารบ้านเรือนจะเป็นสไตล์ภูฏานแท้ กรอบหน้าต่างไม้ลวดลายสีสันสดใส

พาโรซอง (Paro Dzong) ป้อมปราการและวิหารหลวงแห่งเมืองพาโร พาโรซองนับเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมแบบภูฏานที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ทุกท่านจะเห็นถึงกำแพงสีขาวที่ก่อตัวขึ้นเป็นป้อมปราการสามารถเห็นได้ชัดเจนเป็น Landmark ของเมืองพาโร ตัวซองสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1644 โดย ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล พระอริยสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญานและเป็นผู้รวบรวมประเทศภูฏานให้เป็นปึกแผ่น รวมถึงเป็นผู้วางระบบการบริหารงานและระบอบปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล รวมทั้งเป็นที่ตั้งขององค์กรบริหารสงฆ์ประจำเขตปกครองนั้นๆ ทางเข้าพาโรซองมี สะพานแขวนไม้ทอดผ่านข้ามแม่น้ำ เป็นอีกจุดที่ควรถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (National Museum)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมหน้ากากศิลปะแบบพุทธมหายาน นิกายตันตระ ภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ รวมถึงจัดแสดงความหลากหลายทางธรรมชาติอันสมบูรณ์ของประเทศเพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักภูฏานมากขึ้น

วัดคิชู ลาคัง

วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ในประเทศภูฏาน สมัยศตวรรษที่ 7 วัดนี้เป็นวัดที่มีความเชื่อว่าสร้างไว้เพื่อตรึงเท้าซ้ายของนางยักษ์ตนหนึ่งที่นอนทอดร่างปิดทับประเทศทิเบตและเทือกเขาหิมาลัยไว้

เยือนเมืองทิมพู เมืองหลวงแห่งประเทศภูฏาน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิมพู เมืองหลวงของประเทศภูฏานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1 ชม. จากนั้นนำท่านชม ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน ทุกท่านสามารถถ่ายรูปทำแสตมป์ที่ระลึก อีกทั้งสามารถเลือกซื้อดวงตราไปรษณียากรที่งดงามของภูฎาน มีให้เลือกหลายรูปแบบและราคา ทั้งรูปวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ รูปวัดและป้อมปราการที่เรียกว่าซอง (Dzong) รูปสัตว์ รูปดอกไม้ต่างๆ ซึ่งดวงตราไปรษณียกรของภูฏานถือเป็นหนึ่งในของน่าซื้อที่ทุกท่านไม่ควรพลาด!!!

National Memorial Chorten อนุสรณ์สถานแด่กษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งประเทศภูฏาน

National Memorial Chorten อนุสรณ์สถานแด่กษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งประเทศภูฏานสร้างในปี ค.ศ.1974 มีผู้คนมากมายเดินทางมาแสวงบุญและสวดมนต์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ

เมืองพูนาคา (Punakha)

เมืองพูนาคา เป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏานจนถึงปี ค.ศ. 1955 ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองทิมพู ซึ้งระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาขั้นบันไดและดอกไม้ที่บานตลอดเส้นทางสวยงามเป็นอย่างมาก และจะได้ชม ป้อมซิมโตคาซอง สร้างในปี ค.ศ.1629 ป้อมแห่งนี้มีชัยภูมิที่ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งเมืองทิมพู ถือเป็นป้อมปราการแห่งแรกที่ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล สร้างขึ้น เมืองพูนาคาอยู่ระดับความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้เมืองพูนาคามีอากาศอบอุ่นกว่าเมืองพาโรและเมืองทิมพู

แวะชมความงดงาม โดชูลาพาส เจดีย์ดรุกวังเยลลาคัง

โดชูลาพาส เจดีย์ดรุกวังเยลลาคัง คือสถูปแห่งชัยชนะ ชม 108 สถูป อนุสรณ์สถานที่มีต่อกองกำลังกลุ่มหัวรุนแรงที่ยึดพื้นที่ทางภาคใต้ของภูฏาน ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,150 เมตร จากระดับน้ำทะเล พร้อมดื่มด่ำธรรมชาติทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยด้านตะวันตกอันตระการตา และยอดเขาต่างๆเรียงรายกัน รวมไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดอย่างจูโมฮารี ซึ่งมีความสูงถึง 7,328 เมตร

โดชูลาพาส เจดีย์ดรุกวังเยลลาคัง

วัดชิมิลาคัง

เป็นวัดที่อยู่บนยอดเนินกลางหุบเขา สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1499 โดยลามะที่มีชื่อเสียงมาก นามว่าท่าน Lama Drukpa Kunley ที่วัดแห่งนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าใครที่มีบุตรยาก หากมาอธิษฐานขอบุตรก็จะได้สมใจ

พูนาคาซอง (Punakha Dzong)

ป้อมปราการประจำเมืองพูนาคา สร้างขึ้นในปี 1637 โดยฉับดรุง งาวังนัมเกล ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น พระราชวังแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่ “Palace of Great Happiness” และเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สวยงามที่สุดในภูฏาน เป็นป้อมที่สร้างเป็นอันดับสองของภูฏาน ในอดีตเมื่อครั้งเมืองพูนาคายังเป็นเมืองหลวง ป้อมแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันเป็นที่พักในฤดูหนาวของพระชั้นผู้ใหญ่ ป้อมนี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณที่แม่น้ำ Pho chu และ แม่น้ำ Mo chu ไหลมาบรรจบกัน อีกทั้งเป็นสถานที่ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล มรณภาพที่นี่ และปัจจุบันก็ได้เก็บรักษาร่างของท่านอยู่ภายใน ท่านจะได้เห็น ลามะ (พระสงฆ์) จำนวนมากที่กำลังศึกษาพระธรรมและสวดมนต์อยู่ที่นี่

สักการะองค์หลวงพ่อสัจจธรรม

องค์หลวงพ่อสัจจธรรม ที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในภูฏาน และได้รับความร่วมมือจากเศรษฐีชาวสิงค์โปร์ บริจาคเงินซื้อที่ดินและสร้างพระพุทธรูป ให้แก่รัฐบาลประเทศภูฏานให้ท่านไหว้ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล

สวนสัตว์แห่งชาติของประเทศภูฏาน

สวนสัตว์แห่งชาติของประเทศภูฏานและชมสัตว์ประจำชาติทาคิน ที่มีรูปร่างลักษณะพิเศษ ผสมระหว่างแพะกับวัว มีแห่งเดียวในประเทศภูฏานเท่านั้น ซึ่งครั้งนึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาเคยเจรจาขอไปเลี้ยง แต่ได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาลประเทศภูฏาน ทาคิน เป็นสัตว์ในตำนานประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธ

ตาชิโชซอง

ตาชิโชซอง คือ มหาปราการแห่งศาสนาและวิหารหลวงแห่งเมืองทิมพู

ตาซิโซซอง หมายถึง ป้อมแห่งศาสนาอันเป็นมงคล สร้างในสมัยศตวรรษที่ 12 โดย ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำงานของพระมหากษัตริย์ สถานที่ทำการของกระทรวงต่างๆ และวัด รวมทั้งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระสังฆราช และบริเวณอันใกล้ท่านจะได้เห็นวังที่ประทับส่วนพระองค์ของพระราชาธิบดีจิกมี่อีกด้วย

แวะขอพร มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดถ้ำพยัคฆ์เหิร

วัดถ้ำพยัคฆ์เหิร หรือ วัดทักซัง ซึ่งเป็นมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ที่องค์กูรูปัทมสัมภวะได้เดินทางมาบำเพ็ญภาวนาและเจริญสมาธิอยู่ในถ้ำบนชะง่อนเขา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และท่านก็ยังเป็นผู้นำเอาศาสนาพุทธเข้ามาเผยแผ่ยังดินแดนแห่งนี้ ตามความเชื่อของชาวภูฏาน กล่าวว่าท่านได้เหาะมาบนหลังเสือตัวเมีย มายังหน้าผาแห่งนี้เพื่อทำวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้ชื่อว่า ถ้ำเสือ (Tiger Nest) หลังจากที่สำเร็จสมาธิแล้ว ท่านจึงได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้น ชาวภูฏานมีความเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิต จะต้องได้ขึ้นมาแสวงบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเจริญก้าวหน้าของชีวิต

การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ รถจะสามารถขึ้นได้แค่เนินเขาเท่านั้น จากนั้นทุกท่านสามารถเลือกเดินทางได้ 2 แบบ คือ เดินเท้า หรือ ขี่ม้า เท่านั้น (แต่เนื่องจากจากปริมาณคนจูงม้ามักไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว แนะนำว่าเดินเท้าขึ้นเขาจะปลอดภัยกว่า) ส่วนเส้นทางขึ้นไปยังวัด เป็นเนินเขาและมีหน้าผาสูงชันราว 3,000 เมตรจากด้านล่าง แนะนำนักท่องเที่ยวค่อยๆ เดินขึ้นไปช้าๆ ราว 2 ชม. จะถึงจุกพักครึ่งทาง จากนั้นเดินทางต่ออีกราว 1 ชม.ก็จะถึงสุดทางดินลูกรังสุดท้าย จากนั้นเส้นทางจะเปลี่ยนเป็นบันไดขึ้นลง 700 ขั้นสู่วัดทักซัง เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ ชมความงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างอย่างวิจิตรลงตัว

!!! พลาดไม่ได้แล้ว ทริปเดียวคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม !!!

เยือนดินแดนมังกรสายฟ้า แหล่งอารยธรรมลำ้ค่า สถาปัตยกรรมงามตา ดื่มด่ำบรรยากาศอันบริสุทธิ์

รายละเอียดเพิ่มคลิก